ในสมัยราชวงศ์ถังที่ญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมจีนต่างไปนั้น
ความเป็นดนตรีของชนชั้นสูงของกู่ฉิน ก็ได้ถูกถ่ายทอดไปอีกด้วย จนยุคได้กู่ฉินได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของดนตรีราชสำนักกางะขุ 雅楽 (หรือ หย่าเยวี่ย ในภาษาจีน)
ความเป็นดนตรีของชนชั้นสูงของกู่ฉิน ก็ได้ถูกถ่ายทอดไปอีกด้วย จนยุคได้กู่ฉินได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของดนตรีราชสำนักกางะขุ 雅楽 (หรือ หย่าเยวี่ย ในภาษาจีน)
นั่นแสดงให้เห็นว่า
ถึงแม้สมัยราชวงศ์ถังที่ค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องการส่งรับวัฒนธรรม แต่กู่ฉินก็ยังคงไปไม่ถึงชนชั้นสามัญชน เพราะถูกผูกขาดอย่างดีจากชนชั้นปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการอ้างความเกี่ยวข้องกับฟ้าดิน จักรวาล หรือความเกี่ยวพันอย่างแนบแน่นกับระบบการศึกษาชั้นสูง ทำให้ชนชั้นล่างไม่กล้ายุ่งกับกู่ฉินไปโดยปริยาย ถือเป็นความสำเร็จในการยกระดับที่ยาวนานนับพันปี แต่นั่นก็ทำให้ดนตรีกู่ฉินมีพัฒนาการที่ค่อนข้างช้า ถ้าเทียบกับดนตรีชิ้นอื่นๆ
ถึงแม้สมัยราชวงศ์ถังที่ค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องการส่งรับวัฒนธรรม แต่กู่ฉินก็ยังคงไปไม่ถึงชนชั้นสามัญชน เพราะถูกผูกขาดอย่างดีจากชนชั้นปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการอ้างความเกี่ยวข้องกับฟ้าดิน จักรวาล หรือความเกี่ยวพันอย่างแนบแน่นกับระบบการศึกษาชั้นสูง ทำให้ชนชั้นล่างไม่กล้ายุ่งกับกู่ฉินไปโดยปริยาย ถือเป็นความสำเร็จในการยกระดับที่ยาวนานนับพันปี แต่นั่นก็ทำให้ดนตรีกู่ฉินมีพัฒนาการที่ค่อนข้างช้า ถ้าเทียบกับดนตรีชิ้นอื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น