วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

การแตกลายงาบนกู่ฉิน


สำหรับหลายท่านที่ได้ศึกษาหรือตามตามบทความผมบ้างจะพบว่า
ผมพูดถึง "ต้วนเหวิน"(断纹)ที่แปลตรงตัวได้ว่า ลายร้าว หรือในภาษาไทยเราเรียกว่าแตกลายงานั่นเอง
 กู่ฉินสมัยราชวงศ์หมิง
กู่ฉิน นอกจากจะเป็นเครื่องดนตรีแล้ว ยังถูกจัดให้อยู่ในหมวดเรื่องรักอีกด้วย ถ้ายังจำกันได้ ผิวชั้นนอกสุดของกู่ฉินจะไม่ใช้ไม้โล่งๆ แต่ถูกเคลือบด้วยรักหลายต่อหลายชั้น อย่างแรกเพื่อเป็นการรักษาผิวอันอ่อนนุ่มของไม้ที่ใช้ทำกู่ฉิน อย่างที่สองเพื่อช่วยให้เสียงกังวาน และเมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป รักที่เคลือบอยู่นั้น ก็จะแห้งและหดตัว จนทำให้เกิดลายงาตามโอกาศ คนโบราณมีคำที่กล่าวว่า "กู่ฉินที่อายุไม่ถึงร้อยปี จะไม่มีต้วนเหวิน"
การเกิดต้วนเหวินนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือจะทำให้เกิดช่องว่างมาก ทำให้กู่ฉินมีเสียงที่ใสและชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียคือ ถ้าแตกเผยอมากๆ ก็อาจจะเป็นอุปสรรค์ในการบรรเลง ซึ่งก็ต้องนำมาซ่อม (ตามอ่านรายละเอียดได้ที่ ความเข้าใจผิดของใครหลายๆคน ในเรื่องทางกายภาพของกู่ฉิน) และลวดลายหลังจากการซ่อมแซม ก็จะปรากฎสีสันและเส้นสายสวยงามมากมาย ซึ่งคนโบราณนอกจากจะมองว่าต้วนเหวิน เป็นเครื่องแสดงอายุของกู่ฉินแล้ว ก็ยังเป็นความงามและคุณค่าอีกแบบเช่นกัน ดังนั้น จะเห็นได้ว่ามีการตั้งชื่อต้วนเหวินหลายชื่อด้วยกัน เช่น ลายท้องงู ลายดอกเหมยหรือลายขนวัว เป็นต้น
ในยุคสมัยนี้ ที่กู่ฉินกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง คนกู่ฉินส่วนมาก ก็ได้รับอิทธิพลทางแนวคิดว่า กู่ฉินที่มีต้วนเหวิน คือกู่ฉินที่ดีและสวย ดังนั้นจึงมีการทำต้วนเหวินปลอมขึ้นอย่างกว้างขวาง และวิธีทำต้วนเหวินที่เร็วและดีที่สุด นั่นคือการผสมรักเคมีลงไป ยิ่งใส่มาก ก็ยิ่งแตกเร็วมาก นั่นเพราะว่ารักเคมีแห้งเร็วกว่ารักแท้หลายเท่าตัว
 รักแท้ เมื่อกรีดมาใหม่ๆจะเป็นสีดำ ทิ้งไว้ซักพักจะเป็นสีน้ำตาล และกลายเป็นสีดำสนิทเมื่อแห้ง
การทำกู่ฉินหนึ่งตัว ขั้นตอนใช้เวลานานที่สุดคือ การรอให้รักแห้งตัว กู่ฉินที่เคลือยด้วยรักแท้ ต้องใช้เวลาเกือบปี กว่าจะแห้งสนิท แต่ถ้ารักเคมี สามเดือนก็ออกขายได้แล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมกู่ฉินที่เคลือบด้วยรักแท้ จึงมีราคาที่สูงมาก แล้วความคงทนล่ะ แน่นอนว่ารักแท้ทนกว่า เพราะทุกวันนี้เราเห็นกู่ฉินอายุกว่าพันตกตกทอดมาสู่สายตาเรา (ซึ่งแน่นอนว่าผ่านการซ่อมแซมบ้าง) แล้วรักเคมีหล่ะ? จากการสอบถาม พบว่ากู่ฉินรักเทียมหลายตัว เมื่อผ่านเวลาราวสิบปี ก็เกิดรอยแตกที่ไม่พึงประสงค์ หรืออาจะหลุดร่นเป็นแผ่นๆ (ถ้าเคลือบได้ดีและหนาก็อาจจะอยู่ได้นานกว่า ก็มีจำนวนไม่น้อย) จากคำคนโบราณที่ว่า "กู่ฉินที่อายุไม่ถึงร้อยปี จะไม่มีต้วนเหวิน" นั่นแสดงว่า กู่ฉินที่คนโบราณทำออกมาได้แย่ที่สุด ก็ราวๆร้อยปีถึงจะมีปัญหาที่เกิดจากรอยแตก
 รักเทียมและต้วนเหวินปลอม
จากตำราโบราณที่ผมไปอ่านเจอ ถามว่าคนโบราณไม่มีทำต้วนเหวินบ้างหรอ? มีครับ แต่ทำเพื่อน "ทำของปลอม" ออกมาหลอกคนซื้อที่ไม่มีความรู้เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าการเสพความงามจากต้วนเหวินของคนจีน เกิดจากคุณค่าทางการเวลามากกว่า
อาจมีพี่น้องชาวไทยบางคน สนใจกู่ฉินที่มีต้วนเหวิน แล้วอยากได้มาครอบครอง แน่นอนครับ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่อาจจะเจอปัญหาเรื่องการดูแลรักษาที่ต้องใส่ใจเป็นสิบเท่า และมีโอกาศส่งเข้าอู่เพื่อซ่อมแซมบ่อยกว่าเพื่อน และอย่าลืมนะครับ กู่ฉินทำใหม่ที่มีต้วนเหวิน เคลือบด้วยรักเคมี!

ที่สำคัญไปกว่านั้น กู่ฉินแตกลายงาราคาสูงมากครับ  จากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หลายท่านเห็นว่า ไม่ว่าจะซื้อกู่ฉินที่เคลือบด้วยรักแท้หรือเคมีก็ตาม ให้ซื้อแบบไม่มีต้วนเหวินดีที่สุดครับ เพราะอย่างน้อยต้วนเหวินที่เกิดจากรักเคมี มันก็จะค่อยๆเกิด ไม่ได้เกิดจากการเร่ง
ความเห็นส่วนตัวผม ถ้ามีเงินหมื่นบาท ซื้อกู่ฉินไร้ต้วนเหวิน จะได้คุณภาพเสียงดีกว่าแน่นอน  อย่าลืมว่า "ศิลปะ" นี่แหล่ะ ตัวแพง ถ้าศิลปะ 6000 บาท คุณคิดว่าคุณภาพเสียงกู่ฉินจริงๆจะเท่าไรกันครับ (ยกเว้นพิเศษในกรณีกู่ฉินจากมือช่างใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญในการคุมคุณภาพเสียง และต้วนเหวินครับ)
สำหรับผู้ที่กำลังมองหากู่ฉินซักตัว ยังไงก็ลองพิจารณาจากปัจจัยข้างต้นดูครับ เลือกแบบไหนก็ไม่เสียหาย มีได้มีเสียทั้งคู่ อยู่ที่ว่าเราพอใจแบบไหนมากกว่ากันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น