วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

ความสุขุมในการเล่นกู่ฉิน


คนโบราณกล่าวว่า "อันการเล่นฉินนั้น มิควรส่ายหัว มิควรมือโบยบิน" ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น


ประโยคข้างต้น ครูกู่ฉินไม่ได้ดูถูกเครื่องดนตรีเช่นกู่เจิง หรือผีผาแต่อย่างใด เพราะนั้นเป็นท่าผ่อนคลายจากการใช้แรงที่ค่อนข้างมากในการบรรเลง (บางคนอาจจะผ่อนคลายเยอะไปหน่อยบ้าง) แต่ท่านพูดแบบนี้ เพื่อเป็นการเตือนสติว่า การเล่นกู่ฉินนั้นต้องเล่นเพื่อดูความสงบ
สงบได้อย่างไร
หนึ่ง สังเกตุกายตัวเอง นักเรียนที่เพิ่มเรียนใหม่ๆจะมีการเกร็งจากความตื่นเต้น ไม่คุ้นเคยกับเครื่องดนตรี และไม่คุ้นเคยกับร่างกายตัวเองด้วย! นั่นเพราะว่าในชีวิตประจำวันของเรา เรากลับมามองการเคลื่อนไหวของร่างกายน้อยมาก เมื่อต้องใช้นิ้วกลางมือขวาดีดสาย นิ้วนาง นิ้วชี้และนิ้วก้อยก็จะเกร็งตามด้วย บางทีก็เกร็งไปถึงมือซ้าย บางทีไหล่และศอกก็ยกขึ้น หรือไม่ก็ปลายเท้าเกร็งกับพื้นก็มี ซึ่งผมจะคอยบอกทีละจุดๆไป นานเข้าอาการเกร็งจากส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ใช้งานก็จะหายไป จุดนี้จะเป็นผลดีในการบรรเลงบางช่วงที่ใช้ความเร็ว เพราะบางส่วนของร่างกายที่เกร็ง จะเรียกใช้งานได้ไม่ทันสอง สังเกตุใจตนเอง
เมื่อกายเริ่มสงบแล้ว ลองทบทวนความคิดของตนเอง การตอบสนองต่อแวดล้อมต่างๆ หรือแม้แต่กระบวนความคิดในระบบอื่นๆก็ตาม ในจุดนี้สิ่งที่ต้องพร้อมคือ จิตใจที่สงบและเป็นกลาง เราถึงจะเห็นนิสัยที่ไม่ดีของเราได้ เพราโดยปกติมนุษย์มักเข้าข้างตัวเองเป็นธรรมดา ซึ่งถ้าทำได้ เราจะเห็นตัวตนจาก หนึ่งจากสติที่ทบทวน สองจากเสียงเพลงของตัวเอง นั่นเพราะเสียงเพลงโกหกไม่ได้ครับ ฉนั้นในที่นี้เราก็แค่แยกตัวเองออกจากตัวเอง มองตัวเองด้วยมาตราฐานที่ไม่ใช่ตัวเอง ผมเรียกกระบวนการนี้ว่า "มองแบบคนนอก" แล้วอีกส่วนก็ให้สำเนียงดนตรีเป็นตัวช่วยตัดสินอีกที
ซึ่งจะเกิดสองขั้นตอนข้างต้นได้ ผู้เล่นต้องมี "สำนึก" มีเจตนาที่อยากสงบเสียก่อน ซึ่งนี่ก็คือ "อากาศบริสุทธิ์" ที่จะก่อให้เกิดเฟิร์นตามธรรมชาติ อย่างที่ผมพูดไว้ในศิลป์สโมสรครับ (ประโยคเดิม เฟิร์นจะเกิดในที่ที่อากาศบริสุทธิ์ ไม่ใช่ปลูกเฟิร์นแล้วอากาศจะบริสุทธิ์ (เฟิร์น แทนผลลัพธ์ในการดูใจตนเอง))
ทีนี้เข้าใจรึยังครับว่า ทำไมคนโบราณถึงบอกว่า " มิควรส่ายหัว มิควรมือโบยบิน" นั่นเพราะพฤติกรรมแบบนั้น ในกู่ฉินเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นมากๆ เพราะกู่ฉินใช้แรงน้อย การผ่อนคลายเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นการส่ายหัวแบะมือโบยบิน กลับจะเป็นการตกแต่งตัวเราเข้าไปอีก ซึ่งก็จะทำให้การมองตัวเองพล่ามัวขึ้นไปอีก
เล่นดนตรี โดยเอาบทเพลงเป็นกระจก
นี่แหล่ะครับดนตรีที่เล่นให้ตัวเองฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น