ในเมืองจีนทุกวันนี้ คนใช้สายไหมในการเล่นกู่ฉินน้อยลงเรื่อย สาเหตุหลักๆคงหนีไม่พ้นเสียงเบา เพี้ยนง่าย ขาดง่าย และเมื่อผู้ใช้น้อยราคาเลยสูงกว่าสายโลหะ(หุ้มในลอน)เท่าตัว
ที่ว่าสายไหมขาดง่ายนั้น คนส่วนมากมักจะเปรียบกับสายโลหะ แน่นอน เปรียบกันแบบนี้ ไหมแพ้กันเห็นๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินใครบอกว่า เล่นกู่ฉินด้วยสายโลหะแล้วขาดคามือ (นอกซะจากว่าสายเก่าโดนสนิมกิน) ที่จริงแล้วคำว่าขาดง่ายสำหรับสายไหมนั้น
มันก็ไม่ขาดง่ายขนาดนั้น แต่อาจจะสองสามเดือนครั้งหรือนานกว่านั้น อยู่ที่การดูแล สายที่ขาดบ่อยคือสายขนาดเล็ก ได้แก่สายที่5 6 และ 7 เมื่อสายไหนขาด เราก็สามารถร่นปลายสายที่มัดไว้ที่ขากระสา ออกมาขึงใหม่ได้เรื่อยๆ (เช่นเดียวกับโคโตะ) โดยปกติแล้วสายขนาดเล็กจะยาวเป็นพิเศษเพื่อโอกาศนี้โดยเฉพาะ และเนื่องจากสายใหญ่ที่เหลือแทบไม่มีโอกาศขาดเลย มีบันทึกสถิติการใช้สายไหมหนึ่งชุดเล่นกู่ฉินได้นานที่สุด นานถึง 6 ปี!ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนักสำหรับผู้ที่ชอบกลิ่นอายแห่งธรรมชาติกลับมาที่สายโลหะ อย่างที่บอกว่าสายโลหะแท้จริงแล้ว ถูกหุ้มด้วยในลอนอีกสองชั้น เพื่อเพิ่มลดความแข็งกระด้างให้กับเสียงของโลหะ (สายกู่เจิงก็เช่นกัน แต่กู่เจิงหุ้มชั้นเดียว) โอกาศที่โลหะที่เป็นหัวใจของสายแทบไม่มีโอกาศขาดเลย แต่ไนลอนที่หุ้มอยู่นี่สิ ถ้าขาดเมื่อไรมันก็จะร่นๆหยุดเป็นก้อนที่จุดจุดหนึ่ง ไกล้กับบริเวณที่ขาด ซึ่งเป็นตัวทำให้สายเส้นนั้นบอดในทันที (ใครเล่นกู่เจิงก็จะเจอปัญหานี้เช่นกัน) ถ้างั้น เราก็ร่นปลายสายออกมาแบบสายไหมสิ ขอโทษ สายเหล็กทำความยาวออกมาพอดีสำหรับใช้หนึ่งครั้งเท่านั้น ขาดแล้วก็ต้องซื้อใหม่มาเปลี่ยนอย่างเดียว ซึ่งนี่คือข้อดีของสายโลหะ มีขายปลีก แต่สายไหมต้องซื้อทั้งชุด ซึ่งอย่างที่บอก เนื่องจากมันเป็นไหมทั้งดุ้นไม่มีแกนกลางแกนนอกแบบสายโลหะ เมื่อขาดมันจะไม่หลุดรุ่ยออกมา เราก็แต่ตัดทรงที่ไม่เรียบร้อยทิ้งไป แล้วสามารถร่นออกมาขึ้นสายได้อีกเรื่อยๆ แบบนี้ไม่มีขายปลีกก็ไม่ง้อ
สายไหมมีข้อเสียอีกอย่างคือ จะยืดหดตามสภาพอากาศ จึงไม่เหมาะนำไปแสดงบนเวทีที่มีไฟส่องแรงๆ (แน่นอน กู่ฉินเล่นให้ตัวเองฟังที่บ้าน อย่าลืม) สำหรับโอกาศพิเศษมีงานแสดง สายเหล็กที่เกิดมาไม่ถึงร้อยปี ที่พัฒนาตามค่านิยมดนตรีตะวันตก ให้ความดัง ความคมและระดับเสียงที่เสถียรได้มากกว่า แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ว่าใครชอบ แต่ที่แน่ๆ สายไหมไกล้จะหมดลมหายใจไปจากวงการกู่ฉินแล้ว ปัจจุบันนี้เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย
สายไหมมีข้อเสียอีกอย่างคือ จะยืดหดตามสภาพอากาศ จึงไม่เหมาะนำไปแสดงบนเวทีที่มีไฟส่องแรงๆ (แน่นอน กู่ฉินเล่นให้ตัวเองฟังที่บ้าน อย่าลืม) สำหรับโอกาศพิเศษมีงานแสดง สายเหล็กที่เกิดมาไม่ถึงร้อยปี ที่พัฒนาตามค่านิยมดนตรีตะวันตก ให้ความดัง ความคมและระดับเสียงที่เสถียรได้มากกว่า แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ว่าใครชอบ แต่ที่แน่ๆ สายไหมไกล้จะหมดลมหายใจไปจากวงการกู่ฉินแล้ว ปัจจุบันนี้เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น