ในยุคจ้านกว๋อมีนักดนตรีกู่ ฉินฝีมือดีนามว่า ยงเหมินโจว ครั้งหนึ่งถูกเมิ่งฉางจวิน ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่แห่งแ คว้นฉี เชิญไปดีดฉิน เมิ่งฉางจวินอยากรู้ว่าเสีย งฉินของยงเหมินโจว ทำให้ตนเศร้าได้หรือไม่ ยงเหมินโจวตอบว่า การจะฟังเพลงเศร้าแล้วรู้สึ กเศร้า ผู้นั้นจำต้องมีประสบการณ์ค วามเศร้าเสียก่อน ตอนนั้นยงเหมินโจวเลยจำลองเ หตุการณ์การเสียแผ่นดินให้เ มิ่งฉางจวินฟัง พอได้ที่แล้วยงเหมินโจวก็บร รเลงฉินในทันที เพลงจบเมิ่งฉางจวินก็ถึงกับหลั่งน ้ำตา รู้สึกประหนึ่งตนต้องเสียแผ ่นดินไปจริงๆ
เราอาจะเคยได้ยินว่า ถ้าคนศึกษามาอย่างลึกซึ้งแล ้ว จะสามารถฟังได้ถึงอารมณ์ควา มรู้สึก แม้กระทั่งลักษณะนิสัยของผู ้เล่นได้เลย ส่วนหนึ่งเป็นข้อเท็จจริง (ต้องเป็นเพื่อนที่รู้ใจและ เข้าใจอะไรเหมือนๆกันและฟัง ดนตรีเป็นเหมือนกัน) อีกส่วนหนึ่งเอาไว้โม้ว่าฟั งกู่ฉินออก
จากนิทานจากปลายยุคจ้านกว๋อ เป็นยุคที่ดนตรีกู่ฉินเริ่ม ปลีกตัวออกจากกวี จนกลายเป็นดนตรีบรรเลงเดี่ย ว ซึ่งการเกริ่นนำเรื่องราวก่ อนทำการบรรเลง ทำหน้าที่ทดแทนเนื้อหาของกว ีที่หายไป เพื่อชักจูงผู้ฟังไปยังทิศท างที่นักดนตรีต้องการ ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ นั่นเพราะว่ามันแทบจะเป็นไป ไม่ได้เลยที่จะให้ผู้ฟังเข้ าใจตรงกับเราจากการฟังเพลงเ ปล่าๆ
เราอาจะเคยได้ยินว่า ถ้าคนศึกษามาอย่างลึกซึ้งแล
จากนิทานจากปลายยุคจ้านกว๋อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น